วิ่งยังไงไม่ให้เหนื่อยง่าย

<strong>วิ่ง</strong>ยังไงไม่ให้เหนื่อยง่าย #1

วิ่งแล้วเหนื่อยง่ายจัง เหนื่อยเร็วจัง ทำไมวิ่งแค่ 5 นาทีก็เหนื่อยแล้ว

เป็นคำถามยอดฮิต ติดหู ได้ยินกันบ่อยมาก มีวิธีที่สามารถนำไปปรับใช้ ที่จะทำให้เราไม่เหนื่อยง่าย อีกต่อไป

กายพร้อมใจก็ต้องพร้อม

ถ้าร่างกายเราบอกว่าพร้อมแล้ว เข่า ข้อ กล้ามเนื้อ เอว สะโพก ฟิตพร้อมจะวิ่ง สิ่งที่ขาดไม่ได้เช่นกันคือจิตใจครับ เราต้องปรับสภาพจิตใจให้พร้อมวิ่งด้วย ยกความเครียดทิ้งไป เก็บเรื่องปวดหัวไว้ข้างหลัง เพราะเรื่องพวกนี้มันคือต้นเหตุทำให้การวิ่งของเราไม่สนุก และยังส่งผลทางอ้อมทำให้เราเหนื่อยเร็วอีกด้วย

<strong>วิ่ง</strong>ยังไงไม่ให้เหนื่อยง่าย #2

อุ่นเครื่อง

การวอร์มอัพร่างกายเป็นสิ่งสำคัญ การ Warm up ที่ถูกวิธี คือการยืดที่เราจะไม่อยู่กับที่มีการเคลื่อนที่ไปมา เช่น การดีดขาขึ้นมาแตะก้นของเราสลับไปมา หรือ การยกขาช่วงล่างเข่าขึ้นมากอด หรือจะเป็นการวิ่งเขย่งก้าวสลับขา การวอร์มอัพร่างกายนั้นจะช่วยให้กล้ามเนื้อและระบบประสาทของเราพร้อมรับการกระตุ้นจากการออกกำลังกาย นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มอุณหภูมิของกล้ามเนื้อทำให้กล้ามเนื้อทำงานได้รวดเร็วและมีแรงมากยิ่งขึ้นอีกด้วยครับ ส่งผลทำให้เราวิ่งได้นานขึ้น

วิ่งสลับเดินเร็ว

สำหรับนักวิ่งมือใหม่ขอแนะนำให้วิ่งสลับกับเดินเร็ว โดยจะวิ่งเหยาะ ๆ ไปเรื่อย ๆ จนรู้สึกว่าเหนื่อยแล้วให้สลับมาเดินเร็ว ทำให้ร่างกายของเราแอคทีฟอยู่ตลอดเวลา หลังจากร่างกายเริ่มเคยชินแล้ว ก็ลองเปลี่ยนมาวิ่ง 5 นาที สลับเดิน 3 นาที ลองวางแผนการวิ่งของตัวเอง แล้วค่อย ๆ ขยับเวลาไปเรื่อย ๆ ไม่ต้องรีบ

Weight Training

สำหรับคนที่ชอบ weight training จะทำควบคู่ไปด้วยก็ไม่ผิดนะ เพราะจะช่วยทำให้กล้ามเนื้อเราแข็งแรง และลดความเสี่ยงอาการบาดเจ็บหลังวิ่งได้ดี

ฝึกหายใจขณะวิ่งให้ถูกหลัก

เทคนิคการหายใจอย่างถูกวิธีในขณะวิ่งเป็นสิ่งที่นักวิ่งมือใหม่ควรจะต้องเรียนรู้ เพราะจะช่วยทำให้เราสามารถที่จะวิ่งไปได้เร็วขึ้น แถมวิ่งได้นานขึ้น ที่สำคัญควรจะฝึกตั้งแต่ช่วงแรกที่เราเริ่มหัดวิ่ง โดยจังหวะการหายใจในการวิ่งที่นักวิ่งมือใหม่ควรรู้ และนำไปฝึกจะเป็นตามนี้

จังหวะการวิ่ง 2-2 (in 2, out 2)

  1. หายใจเข้าพร้อมกับก้าวเท้าขวา นับ 1 (เรียกว่า in จะเข้าใจง่ายกว่า)
  2. เท้าซ้ายลงพื้นนับ 2 (ก็ยังเป็น in 2)
  3. เท้าขวาลงนับ 1 (ให้เรียกว่า out 1)
  4. ซ้ายลงนับ 2 (ให้เรียกว่า out 2)
  5. เท้าขวาลงอีกครั้งนับ 1 หรือ in ก็คือรอบจังหวะการหายใจต่อไป

จะเห็นได้ว่าการหายใจเข้าออกจะลงที่เท้าขวาทุกครั้งนะครับ และจังหวะแรงกระแทกที่ส่งจากช่วงล่างจากเท้าที่กระทบพื้น สู่ช่วงลำตัวและกล้ามเนื้อกะบังลม (Diaphragm) ขณะยืดหดตัวนั้นก็มาจากเท้าขวา ทุกครั้งที่หายใจเราก็ได้รับแรงจากด้านขวาเพียงข้างเดียว

จังหวะการวิ่ง 3-2 (in 2,3 out 2)

  1. จังหวะที่ก้าวเท้าขวาลงหายใจเข้านับ 1 (เรียกว่า in 1 เหมือนเดิมนะ)
  2. ขาซ้ายก้าวนับ 2 (ให้เรียกว่า in 2)
  3. ขาขวาก้าวนับ 3 (ให้เรียกว่า in 3)
  4. ขาซ้ายก้าว และหายใจออกนับ out (ให้เรียกว่า out 1)
  5. ขาขวาก้าวนับ 2 (ให้เรียกว่า out 2)
  6. ขาซ้ายลง และหายใจนับ 1 หรือ in ก็คือรอบจังหวะการหายใจต่อไป

สรุป การสร้างจังหวะวิ่งแบบ 3-2 หรือช่วงจังหวะหายใจเข้าจะลงเท้า 3 ครั้ง และหายใจออก 2 ครั้ง จะช่วยป้องกันอาการบาดเจ็บได้ดีขึ้นมาก เพราะช่วงที่เราหายใจอยู่นั้นกล้ามเนื้อจะมีการยืดหด และจะเห็นได้ว่าจังหวะหายใจเข้าจะสลับกันระหว่างซ้ายและขวา ทำให้กะบังลมไม่ต้องรับแรงกระแทกอยู่ที่ข้างใดข้างหนึ่งนั่นเอง แต่ในการนำไปใช้ช่วงแรก ๆ ลองฝึกหายใจโดยการเดินวอร์มอัพเบา ๆ ก่อน เพื่อปรับตัวให้คุ้นเคยกับการหายใจและจังหวะลงของเท้านะ

เพลงโปรด

การที่ จะออกไปวิ่งทั้งที หลังจากโยนความเครียดทิ้งออกไปจากหัวแล้ว การที่จะหาความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ และผ่อนคลายสักหน่อย การฟังเพลงสนุก ๆ จังหวะสบายหู หรือจะเป็นเพลงที่เราชอบก็ไม่ผิดครับ จัดเพลย์ลิสต์กันมาเลยยาว ๆ ใส่หูฟัง แล้วกดเล่นในขณะวิ่งก็จะช่วยให้เพลิดเพลิน จนลืมเหนื่อยกันไปได้เลย

ลองเอาไปฝึกกันดูนะ แต่ว่าถ้าเราหยุดวิ่ง หรือ ซ้อมไม่ต่อเนื่องจะทำให้ร่างกายของเรานั้นค่อย ๆ กลับไปสู่จุดเริ่มต้น พอกลับมาวิ่งก็อาจจะเกิดอาการเหนื่อยง่ายขึ้นมาอีกได้ เพราะฉะนั้นการซ้อมอย่างสม่ำเสมอ สำคัญที่สุด

ซ้อมไม่ต่อเนื่อง เมื่อกลับมาวิ่งอีกครั้ง ก็อาจจะเกิดอาการเหนื่อยง่ายขึ้นมาอีก การซ้อมอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญที่สุด

<strong>วิ่ง</strong>ยังไงไม่ให้เหนื่อยง่าย #3

เคราติน คอลลาเจน ไตรเปปไทด์

Keratin collagen คลอลาเจนบริสุทธิ์100% เป็นชนิดไตรเปปไทด์ เคราตินคลอลาเจนนำเข้าจากประเทศเกาหลี คอลลาเจนไตรเปปไทด์ สกัดมาจากปลาน้ำจืด ผู้แพ้อาหารทะเลทานได้ ไม่มีกลิ่นคาว ไม่มีสารตกค้างเจือปน ร่างการสามารถดูดซึมได้รวดเร็วการรับประทาน : แนะนำทานตอนท้องว...

ดูรายละเอียด

สุขภาพหญิง

บทความน่ารู้

ชาเลือดมังกร กับประโยชน์ที่มากมาย

ชาเลือดมังกร เหตุที่เรียกชื่อนี้เนื่องจากสีสรรของน้ำชาสีแดงอันแปลกตาเวลาชงดื่ม  ชาเลือดมังกร เป็นพืชพื้นถิ่นของทางภาคเหนือ ปลูกบนพื้นที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลไม่น้อยกว่า 1,300 เมตร ซึ่งสีแดงในน้ำชาอุดมไปด้วยสารแอนโทไซยานิน (anthocyanin) ซึ่งเป็นเม...

อ่านต่อ

ชาขาว คือ

ชาขาว (White Tea) เป็นชาชนิดหนึ่ง การเก็บเกี่ยวใบชาเฉพาะส่วน ด้วยรูปลักษณ์เหมือนเข็ม มีขนสีขาวประกายเงินปกคลุมจึงเรียกกันว่า เข็มเงิน เป็นชาที่มีคุณภาพสุดยอดชาที่เรียกว่า Silver Needle หรือในภาษาจีนเรียกว่า Yinzhen (หยินเซน แปลว่า เข็มเงิน) ยอดชาเข็...

อ่านต่อ

ใส่ใจภูมิตนเอง

ออกนอกบ้านก็เสี่ยง อยู่บ้านเฉยๆก็ใช่ว่าจะปลอดภัย การทำให้ร่างกายแข็งแรง และ มีภูมิต้านทานที่มากพอ จะทำให้ต่อสู้กับโรคร้ายได้ ระหว่างรอวัคซีน ใส่ใจตนเอง สร้างร่างกายให้แข็งแรง ...

อ่านต่อ

ดูแลสุขภาพวัยเรียน

ทั้งเรียนหนัก เล่นเหนื่อย อ่านหนังสือโต้รุ่ง ถึงจะอยู่ในวัยที่ร่างกายยังแข็งแรง ฮอร์โมนทำงานดี แต่ก็อย่าละเลยสุขภาพ เพราะเชื้อโรคและไวรัสจ้องจะโจมตีเสมอหากอ่อนแอ เมื่อใช้งานหนักก็ต้องดูแลใส่ใจบ้าง เสริมภูมิต้านทานให้แข็งแรง เพื่อก้าวไปตามความฝันได้อย...

อ่านต่อ

อาชีพ ที่เสี่ยงกับ โรคมะเร็ง

การได้รับสารเคมีจากการทำงานบางชนิดเป็นระยะเวลานาน (4-40 ปี) อาจเป็นเหตุให้เซลล์มีการแบ่งตัวมากผิดปกติ เกิดการเจริญเติบโตของเซลล์จนไม่สามารถควบคุมได้ ทำให้เกิดเนื้องอกชนิดร้ายแรงหรือ มะเร็ง ตามข้อมูลที่ระบุไว้ในเว็บไซต์กองความปลอดภัยแรงงาน กรมสวัสดิกา...

อ่านต่อ