ผื่นจากการติดเชื้อHIV และวิธีสังเกตุ
ผื่นที่ผิวหนังเป็นอาการทั่วไปของการติดเชื้อ HIV ซึ่งในกรณีส่วนใหญ่มักเป็นสัญญาณเริ่มแรกและมักจะเกิดขึ้นภายใน 2-3 สัปดาห์หลังจากที่คุณได้รับเชื้อ
รู้จักอาการผื่นที่เกิดจากเชื้อHIV
1.ดูว่าเป็นผื่นแดง บวมเล็กน้อย และคันมากๆ หรือไม่
ผื่นที่เกิดจากเชื้อ HIV มักจะเป็นจุดด่างดวงบนผิวหนัง ถ้าเป็นคนผิวขาวก็จะเป็นจุดสีแดง แต่ถ้าเป็นคนผิวสีเข้มก็จะเป็นสีดำอมม่วง
- ความรุนแรงของผื่นจะไม่เท่ากันในแต่ละคน บางคนก็อาจจะมีผื่นขึ้นรุนแรงมากเป็นบริเวณกว้าง ในขณะที่บางคนก็อาจจะมีผื่นขึ้นนิดหน่อยเท่านั้น
- ถ้าผื่นที่เกิดจากเชื้อ HIV เป็นผลมาจากยาต้านไวรัส ผื่นจะเป็นรอยแผลแดงบวมไปทั่วร่างกาย ผื่นแบบนี้เรียกว่า “ผื่นแพ้ยา”
2.สังเกตว่าผื่นขึ้นตรงไหล่ หน้าอก ใบหน้า ท่อนบนของร่างกาย และมือหรือไม่
ผื่นที่เกิดจากเชื้อ HIV มักจะขึ้นในบริเวณเหล่านี้ แต่ก็มักจะหายไปเองภายในเวลาไม่กี่สัปดาห์ บางคนก็เลยเข้าใจผิดคิดว่าเป็นอาการแพ้หรือผิวหนังอักเสบ ผื่นที่เกิดจาก HIV ไม่สามารถติดต่อกันได้ เพราะฉะนั้นจึงไม่มีความเสี่ยงว่าจะแพร่เชื้อ HIV ผ่านทางผื่น
3.สังเกตอาการอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นตอนที่เป็นผื่น HIV
- คลื่นไส้และอาเจียน
- แผลในปาก
- มีไข้
- ท้องเสีย
- ปวดกล้ามเนื้อ
- ตะคริวและปวดตามร่างกาย
- ต่อมน้ำเหลืองโต
- สายตาเบลอหรือพร่ามัว
- ไม่อยากอาหาร
- ปวดตามข้อ
4.รู้สาเหตุของผื่นจากเชื้อ HIV
ผื่นชนิดนี้เกิดจากการที่เซลล์เม็ดเลือดขาว (WBC) ในร่างกายลดลง ผื่นจากเชื้อ HIV จะเกิดขึ้นในระยะไหนของการติดเชื้อก็ได้ แต่โดยทั่วไปแล้วคุณจะสังเกตได้ว่ามีผื่นขึ้นภายใน 2-3 สัปดาห์หลังจากที่คุณได้รับเชื้อ เป็นระยะที่เรียกว่าการเปลี่ยนแปลงในตัวอย่างเลือด ซึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อเราสามารถตรวจหาการติดเชื้อได้จากการตรวจเลือด แต่บางคนก็อาจจะไม่ผ่านขั้นตอนนี้ แต่จะมีผื่นขึ้นหลังจากติดเชื้อไวรัสไปถึงระยะอื่นแล้ว
- นอกจากนี้ผื่น HIV ยังอาจเป็นอาการอันไม่พึงประสงค์จากการใช้ยาต้านไวรัส HIV ก็ได้ ยาต้านไวรัสเช่น Amprenavir Abacavir และ Nevirapine อาจก่อให้เกิดผื่น HIV ได้
- ในช่วงของการติดเชื้อ HIV ในระยะที่สาม คุณอาจจะมีผื่นขึ้นเนื่องจากผิวหนังอักเสบ ผื่น HIV ชนิดนี้จะเป็นสีชมพูหรือออกแดงๆ และคัน มักจะขึ้นเป็นเวลา 1-3 ปีและมักจะขึ้นตรงขาหนีบ รักแร้ หน้าอก ใบหน้า และหลัง
- คุณอาจจะมีผื่น HIV ได้หากคุณเป็นเริมหรือมีเชื้อ HIV
การรักษาโดยพบแพทย์
1.ถ้าคุณมีผื่นขึ้นเล็กน้อย ให้เข้ารับการตรวจหาเชื้อ HIV
- ถ้าผลออกมาเป็นบวก แพทย์น่าจะสั่งยาต้านและรักษาเชื้อเอชไอวี
- ถ้าคุณรับประทานยาต้านไวรัสแล้วและมีผื่นขึ้นเล็กน้อย แพทย์จะบอกให้คุณรับประทานยาต่อไปเพราะผื่นจะหายภายใน 1-2 สัปดาห์
- เพื่อให้อาการของผื่นลดลงโดยเฉพาะอย่างยิ่งอาการคัน แพทย์อาจจะสั่งสารต้านฮิสทามีน เช่น Benadryl หรือ Atarax หรือครีมที่มีส่วนประกอบของคอร์ติโคสตีรอยด์ให้
2.เข้ารับการรักษาทันทีหากอาการผื่นรุนแรง
3.ปรึกษาแพทย์หากอาการแย่ลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากรับประทานยา
4.อย่ารับประทานยาที่ก่อให้เกิดอาการแพ้
5.ถามแพทย์เรื่องการติดเชื้อแบคทีเรียที่อาจทำให้เกิดผื่น
การรักษาผื่นด้วยตัวเอง
1.ใช้ยาทาที่ผื่น
2.หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับแสงแดดโดยตรงหรืออากาศหนาวเกินไป
- ถ้าคุณออกไปข้างนอก ให้ทาครีมกันแดดทั่วร่างกายเพื่อปกป้องผิวหนังหรือใส่เสื้อแขนยาวกับกางเกงขายาว
- ถ้าคุณอยู่ในที่ที่อากาศหนาวมากๆ ให้ใส่เสื้อโค้ตและเสื้อผ้าอุ่นๆ เวลาออกไปข้างนอกเพื่อไม่ให้ผิวหนังสัมผัสกับความหนาวเย็นมากเกินไป
3.อาบน้ำเย็น
- คุณอาจจะอาบน้ำฝักบัวหรือแช่อ่างอาบน้ำในน้ำที่ค่อนข้างอุ่นและใช้การเช็ดแทนการถูตัว ทามอยเจอไรเซอร์ธรรมชาติ เช่น ครีมที่มีส่วนผสมของน้ำมันมะพร้าวหรือว่านหางจระเข้ทันทีที่อาบน้ำเสร็จเพื่อช่วยเยียวยาผิว ผิวหนังชั้นบนสุดก็เหมือนกับฟองน้ำ เพราะฉะนั้นการทามอยเจอไรเซอร์ทันทีหลังจากที่คุณกระตุ้นรูขุมขนก็จะช่วยกักเก็บน้ำที่อยู่ในผิวและทำให้ผิวไม่แห้ง
4.ปลี่ยนมาใช้สบู่อ่อนๆ หรือสบู่สมุนไพร
- หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีจำพวกปิโตรเลียม ได้แก่ Methyl- Propyl- Butyl- Ethylparaben และ Propylene Glycol เพราะทั้งหมดนี้เป็นวัตถุดิบสังเคราะห์ที่อาจทำให้ผิวหนังระคายเคืองหรือทำให้เกิดอาการแพ้
- คุณสามารถทำสบู่อาบน้ำจากมอยเจอไรเซอร์ธรรมชาติอย่างน้ำมันมะกอก ว่านหางจระเข้ และน้ำมันอัลมอนด์ได้
- อย่าลืมทามอยเจอไรเซอร์จากธรรมชาติทันทีหลังจากอาบน้ำและทาตลอดทั้งวันเพื่อให้ผิวชุ่มชื้น
5.ใส่เสื้อผ้าที่ทำจากผ้าฝ้ายนุ่มๆ
6.รับประทานยาต้านไวรัสต่อ
POW DERLA พาวเดอร์ล่า
พาวเดอร์ล่า POWDERLA พาวรูปแบบใหม่ พาวผงชงดื่ม ได้ประโยชน์ อร่อย ชงง่าย โดยมีพลูคาวเป็นส่วนผสมหลัก นอกจากนี้ยังประกอบไปด้วย ขิง กระชายขาว ตรีผลา (สมอไทย มะขามป้อม สมอพิเภก) ใบหม่อน ชะเอมเทศ เก๊กฮวย เจียวกู้หลาน แป๊ะก๊วย ใบบัวบก งาดำ สารสกัด...
ดูรายละเอียดบำรุงผิว
แช่บ่อน้ำร้อน ดีต่อนักวิ่ง
การแช่บ่อน้ำร้อน หรือ ออนเซ็น เมื่อฝ่าด่านความรู้สึกประหนึ่งอยู่ในหม้อต้มไข่ไปได้ ความสบายอย่างหาที่สุดมิได้ก็จะเกิดขึ้นตามมา ความจริงแล้วน้ำอุ่น หรือน้ำอุ่นที่ค่อนไปทางร้อนนี้มีประโยชน์ต่อนักวิ่งหลายประการมากทีเดียวหากเป็นไปได้ การแช่ออนเซ็น หรือบ่อ...
อ่านต่ออาบน้ำแบบนี้ สุขภาพอาจแย่ลง
ระวัง! อาบน้ำแบบนี้ สุขภาพอาจแย่ลงอาบน้ำทันทีหลังดื่มแอลกอฮอล์ ร่างกายได้รับกลูโคสไม่พอ เสี่ยงหน้ามืด เวียนหัว เป็นลมหรือลื่นล้มในห้องน้ำอาบน้ำทันทีหลังออกกำลังกาย ต้องรอร่างกายหายเหนื่อยก่อน 10-15 นาที ถ้าอาบทันทีอาจเสี่ยงไม่สบาย หรือช็อกได้อาบน้ำท...
อ่านต่อขับถ่ายยาก กลัวการเข้าห้องน้ำ
ในพาวน้ำ หรือ พาวซุยยากุเอสเซนส์ มีจุลินทรีย์ทั้ง พรีไบโอติกส์ และ โพรไบโอติกส์ จุลินทรีย์ชนิดดี จำเป็นต่อลำไส้ ช่วยให้ขับถ่ายเป็นเรื่องที่ง่าย กินดี หลับดี ถ่ายดี แค่นี้ก็ทำให้สุขภาพดีขึ้นได้ ...
อ่านต่อสุขภาพการนอน การขับถ่าย ใครว่าไม่สำคัญ
นอนหลับยาก อ่อนเพลีย หรือขับถ่ายไม่ดี ไม่รู้จะแก้ยังไง? เปิดใจ...ลองทานพาว พาวเอสเซนส์ นวัตกรรมใหม่ของสมุนไพรไทย ยกระดับสมุนไพรไทยสู่สากล ด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ที่มี 4งานวิจัย 2อนุสิทธิบัตร และได้รับการขึ้นทะเบียนบัญชีนวัตกรรมไทยในปี2561 พาวเ...
อ่านต่อรู้ได้อย่างไรดื่มน้ำพอไหม
ประโยชน์ของการดื่มน้ำให้เพียงพอสำหรับร่างกายมีมากมาย สิ่งที่คุณจะรับรู้ได้อย่างชัดเจนด้วยตัวเองก็คือ เมื่อดื่มน้ำไม่เพียงพอ เราจะรู้สึก ปากแห้ง คอแห้ง ผิวแห้ง ปัสสาวะสีเหลืองเข้ม แต่เมื่อดื่มน้ำสะอาดเพียงพอสำหรับร่างกาย สมองจะสามารถคิด ประมวลผลได้เร็...
อ่านต่อ