พฤติกรรมที่ทำร้ายตับที่คุณอาจไม่รู้

พฤติกรรมที่ทำร้าย <strong>ตับ</strong> ที่คุณอาจไม่รู้ #2

"ตับ" เป็นอวัยวะที่สำคัญของร่างกาย และทำหน้าที่ 500 กว่าอย่าง เช่น กำจัดสารพิษ ฟอกเลือด เปลี่ยนแปลงสารอาหารเป็นพลังงาน กักเก็บวิตามินและแร่ธาตุ เป็นต้น เนื่องจากตับมีความสำคัญขนาดนี้ เราจึงควรหันมาดูแลสุขภาพตับและหยุดพฤติกรรมที่ทำร้ายตับ ดังนี้

1. ดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณที่มากเกินไป

เราต่างรู้กันดีอยู่แล้วว่าแอลกอฮอล์มีผลเสียกับตับ ยิ่งดื่มมากก็ยิ่งทำร้ายตับมาก ถ้าคุณอยากเป็นคนที่มีสุขภาพที่ดีก็ควรดื่มในปริมาณที่พอเหมาะ แต่ถ้าประวัติคนในครอบครัวของคุณเคยมีอาหารแอลกอฮอลิซึม หรือโรคเกี่ยวกับตับ คุณควรหลีกเลี่ยงและดื่มเครื่องเหล่านี้ในปริมาณน้อยๆ

2. ดื่มน้ำไม่มากเพียงพอ

ดื่มน้ำวันละ 8 แก้วต่อวัน คือสิ่งที่เราเรียนรู้มานาน การดื่มน้ำในปริมาณไม่มากพอจะส่งผลถึงการทำงานของตับในการกำจัดสารพิษ ถ้าตับสูญเสียความชุ่มชื้นมันก็จะทำงานได้ไม่เต็มที่ แล้วยังทำให้เสี่ยงต่อการป่วย ดังนั้นควรดื่มน้ำในปริมาณที่ร่างกายต้องการและควรจะเป็นน้ำที่มาจากแหล่งน้ำที่สะอาด

3. สูบบุหรี่

นอกจากส่งผลต่อปอดแล้วยังสามารถส่งผลถึงตับได้ด้วย การสูบบุหรี่ก่อให้เกิดโรคมะเร็งตับได้ และยังก่อให้เกิดอนุมูลอิสระที่ทำร้ายร่างกายอีกด้วย

4. น้ำหนักตัวมากเกินไป

ผลที่ตามมาจากการมีน้ำหนักเกินคือไขมันที่จะตามมาเกาะอยู่ที่ตับ ทำให้เกิดอาการไขมันพอกตับ แม้ว่าจะไม่ได้ดื่มแอลกอฮอล์แต่การกินของที่มีไขมันมากก็ส่งผลต่อตับไม่แพ้แอลกอฮอล์ การเลือกกินแต่อาหารที่มีประโยชน์สามารถแก้ปัญหานี้ได้

5. กินน้ำตาลมากเกินไป

ปัจจุบันมีการรณรงค์เกี่ยวกับการบริโภคน้ำตาลมากขึ้น กล่าวถึงโทษของน้ำตาล และแนะนำปริมาณที่ควรบริโภคต่อวัน แต่คุณอาจจะยังไม่รู้ว่าน้ำตาลส่งผลให้เกิดโรคตับได้ ในขณะที่เซลล์ในร่างกายสามารถเผาผลาญกลูโคสได้ แต่ตับเป็นอวัยวะเดียวที่สามารถกำจัดฟรุกโตสได้ ดังนั้นถ้าเราทานอาหารที่มีฟรุกโตสมากเกินไปจึงเป็นการทำร้ายตับ เราควรหลีกเลี่ยงอาหารประเภทไซรัป โซดา ขนมอบ ฯลฯ แล้วหันมาบริโภคผลไม้แทน

6. กินอาหารที่เพิ่มน้ำตาลในเลือด หรืออาหารมื้อใหญ่ก่อนเข้านอน

ตับจะทำงานตอนกลางคืน ดังนั้นการกินอาหารมื้อใหญ่ๆ ก่อนเข้านอนจะทำให้ตับทำงานหนักมากขึ้น ลองกินแคร์รอตหรือบีทรูทในมื้อเย็นจะช่วยตับทำความสะอาดสารพิษได้

7. บริโภคไขมันทรานส์

ถ้าคุณมีปริมาณคอเลสเตอรอลเกิน คุณอาจเคยได้ยินหมอแนะนำว่าให้หลีกเลี่ยงไขมันทรานส์ ไขมันทรานส์เป็นตัวช่วยเพิ่มปริมาณคอเลสเตอรอลและ LDL (ไขมันชนิดเลว) ขนมอบจำพวกเบเกอรี่ ขนบขบเคี้ยว ป๊อบคอร์น ของทอด เหล่านี้ล้วนมีไขมันทรานส์ ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงหรือบริโภคให้น้อยลงเพื่อให้ตับไม่ต้องทำงานหนัก

8. มีเพศสัมพันธ์แบบไม่ปลอดภัย

การมีเพศสัมพันธ์ในแบบที่ไม่ปลอดภัยส่งผลเสียถึงตับได้มากกว่าที่คุณคิด มันทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ ซึ่งสามารถติดต่อกันได้ทางเพศสัมพันธ์ ไวรัสตับอักเสบมี 3 ประเภท คือ ประเภท A, B และ C ประเภทที่ควรระวังคือประเภท B ที่สามารถแพร่กระจายผ่านการสัมผัสเลือดโดยตรง หรือของเหลวอื่นๆ ในร่างกาย

9. รับประทานอาหารเสริมหรือสมุนไพร

อาหารเสริมและสมุนไพรหากทานในปริมาณที่มากเกินไปก็สามารถเข้าไปทำอันตรายตับได้ ถึงบางอย่างจะเคลมว่าทำมาจากธรรมชาติล้วนๆ ก็ส่งผลเสียต่อตับได้ ตับมีหน้าที่กรองสารพิษ ถ้าอาหารเสริมหรือสมุนไพรที่คุณทานมีส่วนผสมที่ไม่ปลอดภัยก็จะทำให้ตับทำงานหนักขึ้น

10. เครียดและเหนื่อยล้ามากเกินไป

ความเครียดและการเหนื่อยล้าสะสมนั้นไม่ดีต่อสุขภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับตับ มีงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยเอดินเบิร์ก ซึ่งตีพิมพ์ในวารสารที่เกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร พบว่า ผู้ที่มีความทุกข์ วิตกกังวล ซึมเศร้า มีโอกาสเสียชีวิตด้วยโรคตับ ในทางการแพทย์ก็พบว่าอาการเหล่านี้มีความเชื่อมโยงกัน ซึ่งคนส่วนใหญ่ไม่ทราบว่าอารมณ์ต่างๆ มีผลต่อพลังงานของตับ

11. ออกกำลังกายน้อย

ถึงแม้ว่าคุณจะไม่ได้อ้วน แต่ก็ควรออกกำลังกาย การออกกำลังกายนอกจากจะช่วยให้แข็งแรงแล้ว ยังช่วยตับทำงานอย่างการกำจัดสารพิษในร่างกายอีกด้วย

12. พึ่งพาเภสัชกรมากเกินไป

เวลาเราปวดหัว มีไข้ ปวดกล้ามเนื้อ หลายๆ คนเลือกที่จะไปซื้อยามากินเอง แต่ความจริงแล้วยาเหล่านี้ถ้ากินมากหรือใช้บ่อยๆ มันก็เป็นพิษต่อตับได้ เพราะยาพวกนี้ต้องผ่านไปที่ตับและสามารถสร้างความเสียหายได้

13. ไม่ตรวจเช็กสุขภาพตับ

เรามักให้ความสำคัญกับหัวใจและคอเลสเตอรอล เวลาตรวจร่างกายก็จะเลือกโปรแกรมตรวจที่มีออปชั่นตรวจหัวใจและคอเลสเตอรอลด้วย จึงไม่ได้ให้ความสนใจต่อการตรวจสุขภาพตับ ทั้งที่จริงแล้วตับก็มีสำคัญไม่แพ้อวัยวะอื่นเลย ลองไปเช็กดูบ้างว่าค่าตับของเราเป็นอย่างไร

พฤติกรรมที่ทำร้าย <strong>ตับ</strong> ที่คุณอาจไม่รู้ #3

เครดิตข้อมูล: www.sanook.com/health/

ชาขาว ชาขาวเข็มเงิน ห้วยน้ำกืน เวียงป่าเป้า เชียงราย

Baihao Yinzhen ไป๋หาวหยินเจิน ชาขาวเข็มเงิน หรือในภาษาอังกฤษเรียกว่า Silver Needle ด้วยลักษณะเหมือนเข็ม มีขนสีขาวประกายเงินปกคลุม จึงเรียกว่าเข็มเงิน ชาขาวเข็มเงิน ตราบ้านชาไทย ปลูกบนยอดเขาสูงไม่น้อยกว่า 1,300 เมตรจากระดับน้ำทะเล จากไร่ชาบ้านห้วยน้ำก...

ดูรายละเอียด

บำรุงตับ

บทความน่ารู้

ความเครียด ลำไส้ สัมพันธ์กัน

เคยสงสัยกันไหมว่า ทำไมเวลาเครียดมากๆ เราถึงรู้สึกปวดท้อง กระอักกระอ่วน อาการเหล่านี้เกี่ยวข้องกับลำไส้อย่างไร และ มีวิธีแก้อย่างไรได้บ้าง ลำไส้นั้นก็เหมือนสมองอันที่สองของร่ายกาย เพราะลำไส้มีสาร Serotonin (เซโรโทนิน) คือสารที่ส่งผลต่ออารมณ์ความรู้สึก...

อ่านต่อ

9 อาการ เตือน โรคเบาหวาน

กว่าจะรู้ตัว ก็เป็นเบาหวานเสียแล้ว สังเกตตัวเองว่าเข้าข่ายไปแล้วกี่ข้อ 9 อาการเตือน โรคเบาหวาน ดังนี้ ปัสสาวะบ่อยผิดปกติ คอแห้งกระหายน้ำ หิวบ่อยกินจุกว่าเดิม ผิวหนังแห้งและคัน เป็นแผลแต่หายช้ากว่าปกติ อ่อนเพลียไม่มีแรง มีอาการตาพล่ามัวมองไม่ชัดเป็นช่...

อ่านต่อ

อาร์ติโชค พืชเมืองหวาน บำรุงตับลดไขมัน

อาร์ติโชค (Artichoke) พืชเมืองหนาวทางยุโรปมีใบสีเขียวอ่อน ดอกใหญ่ มีกลีบซ้อนกันหลายชั้น ประโยชน์ต่อตับและลดไขมันคอเลสเตอรอล ในสมัยโบราณชาวกรีก อียิปต์ และโรมัน นำมาทำอาหารและยารักษาโรค นิยมนำดอกมาเด็ดที่ละกลีบและนำไปต้ม หรือปรุงอาหาร รสชาติมันๆ เหมื...

อ่านต่อ

เห็ดหลินจือ และสรรพคุณ

เห็ดหลินจือ เป็นยาจีน (Chinese traditional medicine) ที่ใช้กันมานานกว่า 2,000 ปี นับตั้งแต่สมัยจักรพรรดิฉินซีฮ่องเต้เป็นต้นมา เห็ดหลินจือเป็นของหายากมีคุณค่าสูงในทางสมุนไพรจีน และได้ถูกบันทึกไว้ในคัมภีร์โบราณ “เสินหนงเปินเฉ่า” ซึ่งเป็นตำราเก่าแก่ที่ส...

อ่านต่อ

การเดินเร็ว ลดความดันได้

การเดินเร็วๆ หรือ Brisk Walk ช่วยลดความดันได้ดีพอๆ กับการวิ่ง การออกกำลังกายเป็นปัจจัยสำคัญของการควบคุมความดัน หลายคนสงสัยว่าการเดินเร็วจะสามารถลดความดันได้เท่ากับการวิ่งจริงหรือ?การเดินเร็ว 10-12 นาทีต่อกิโลเมตร หรือนับง่ายๆ คือ 100 ก้าวต่อนาที หรื...

อ่านต่อ